ขั้นตอนสมัครแอร์ "Singapore Airlines"




เห็นว่าช่วงนี้มีหลายสายการบินเปิดรับสมัครพนักงานตอนรับบนเครื่องบิน

ได้โอกาสดี จึงขอมาสรุปรวบยอดขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน
เผื่อเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะได้มีข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจ
โดยขั้นตอนต่างๆที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลนส์

แต่ละสายการบิน เขาก็มีขั้นตอนการสมัครและการคัดเลือกที่แตกต่างกันไป
แต่โดยรวมๆแล้วก็ไม่หนีไปจากที่จะแจกแจงให้ฟังเสียเท่าไหร่นัก
เพราะฉะนั้นลองอ่านเล่นๆดูไว้ก็ไม่เสียหลายนะจ้ะ

  
รายละเอียดที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ท่านจะเจอตอนวันสัมภาษณ์
ท่านใดอยากรู้รายละเอียดเรื่องเอกสารและการเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์ เชิญได้"ที่นี่"
(สำเนียงทางการขึ้นมาซะอย่างนั้น)

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้รับเชิญไปสัมภาษณ์ อย่างแรกเลย ท่านต้องสมัครออนไลน์ก่อน
(บางที่ไม่ใช่อยากจะไป ก็เดินเข้าไปสมัครได้เลย ต้องดูให้ดีๆนะ)
ส่งเรซูเม่ รูปถ่าย ใบสมัครอะไรให้เรียบร้อย
ดูรายละเอียดให้้ดีว่าเขาต้องการอะไรบ้าง แล้วก็สมัครโลดดดด

จากนั้นก็รอคอย คอยย และคอยยย.....

ก่อนถึงวันสัมภาษณ์จริงสักประมาณ 5-6 วัน
ทางสายการบินจะเริ่มส่งอีเมลมาเชิญตัวท่านไปเข้าร่วมการแข่งขันประชันความสามารถและความงาม
เขาจะบอกวันมา ว่าให้ท่านไปวันไหน เวลาใด
สถานที่โรงแรมไหน ห้องอะไร

แต่จะบอกว่าเรื่องเวลานั้นไม่ค่อยตายตัว
หลายที่คือถ้าไปก่อนก็ได้สัมภาษณ์ก่อน ตามนั้น..


ขั้นตอนการสัมภาษณ์สามารถสรุปรวบยอดได้ตามนี้
1. สัมภาษณ์กลุ่ม 
2. วัดส่วนสูง
3. สอบข้อเขียน
4. กรุ๊ปดิสคัชชั่น
5. สัมภาษณ์เดี่ยว
6. ลองชุด

เมื่อทราบดังนี้แล้ว สิ่งที่ท่านควรปฏิบัติคือ
1. เตรียมตัวและใจให้พร้อม
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
3. ฟิตหุ่นไปให้สวยๆ
4. ซ้อมแนะนำตัวไว้บ้างก็ดี
5. มีเตรียมตอบคำถามไว้บ้างก็ได้
6. และที่สำคัญ ฝึกยิ้มงามๆสักวันละสองสามที



คราวนี้เรามาลงรายละเอียดแต่ละขั้นกัน

1. สัมภาษณ์กลุ่ม (ด่านชี้เป็นชี้ตาย)

ขั้นตอนนี้เป็นการแนะนำตัวต่อหน้ากรรมการหน้าตาเฉยชา2ท่านและเพื่อนร่วมสมัคร
ท่านจักต้องเข้าไปในห้องพร้อมเหล่าผู้สมัครอื่นๆ รวม 10 ท่าน พร้อมแนะนำตัวทีละคน
กรรมการจะถามคำถามเพิ่มเติม ซึ่งอันนี้แล้วแต่ดวงของท่านว่าจะได้คำถามยากหรือง่าย
แต่คือถ้าเข้าไปกลุ่มเดียวกัน ก็มักจะได้คำถามเดียวกัน

ตัวอย่างคำถามก็เช่น
- ทำไมถึงอยากเป็นแอร์
- บอกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองไทยมาสิ
- ขนมหวานที่ท่านชอบคือ
- กษัตริย์ที่ท่านนับถือคือ (อันนี้ยากแสรดด)

ที่บอกว่าเป็นด่านชี้เป็นชี้ตายเพราะว่าถ้าผ่านด่านนี้ไปได้ ที่เหลือก็ไม่เกินความสามารถ
ด่านนี้สำคัญตรงที่ต้องแนะนำตัวอย่างไรให้โดนใจกรรมการ
และทำยังไงให้ดูเป็นมิตร และถูกโฉลก
(จริงๆด่านนี้อาศัยดวงด้วยนะ ถ้าหน้าตาถูกโฉลกกับกรรมการก็รอดไป)

เรื่องการแนะนำตัว  อิชั้นเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จักต้องเตรียมบทพูดไปก่อน
คือต้องรู้ว่าควรจะพูดอะไรยังไง เพื่อความมั่นใจของตัวเราเอง
แต่ก็อย่าให้ถึงกับท่อง เพราะมันจะดูไม่ธรรมชาติ

ควรแนะนำอะไรให้ดูแตกต่าง นอกเหนือไปจากชื่อ อายุ การศึกษา
อาจจะไม่ต้องเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร แต่ควรจะเป็นรายละเอียดที่ทำให้คนอื่นจำเราได้
เช่น อ๋ออ คนนั้นไงที่ชอบเต้นระบำฟลามิงโก้ หรือ อ๋อออ คนนั้นไง ที่ชอบฟังเพลงหมอลำ


2. วัดส่วนสูง

หลังจากแนะนำตัวเสร็จ เขาจะให้ท่านออกมารอผลด้านนอก
จากนั้นสามสี่นาทีต่อมา เขาก็จะมาประกาศผลผู้ที่ได้ไปต่อ

ขั้นตอนต่อไปที่ท่านจะต้องประสบก็คือการวัดส่วนสูง
แต่ในที่นี้ไม่ได้วัดความสูงท่านตรงๆ แต่จะใหท่านเอื้อมแตะ
ถ้าแตะถึงจุดที่เขาขีดไว้ ก็เป็นอันว่าผ่าน
เทคนิคเอื้อมให้ได้เยอะๆ คือถอดสูทออกก่อน


 3. สอบข้อเขียน 

ต่อมาท่านจักได้ทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษ
โดยข้อสอบจะมีสองพาร์ท พาร์ทแรกเป็นการเติมคำ
เลือกคำที่ใช่ บุพบทที่ชอบมาเติมลงในประโยคให้สมบูรณ์สวยงาม ไม่ยาก รับประกัน
ส่วนพาร์ทที่สอง จักให้ท่านอ่าน article ความยาวหน้าครึ่ง และตอบคำถามกากบาท
เนื้อหาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบิน ค่อนข้างยาก

ดูเวลาดีๆ เพราะมันมีน้อย
อ่านคำถามก่อนก็ดี แล้วค่อยมาหาคำตอบ วิธีนี้จะชาวยประหยัดเวลาได้เยอะ


4. กรุ๊ปดิสคัชชั่น

ด่านนี้ ท่านจะต้องเข้าไปพร้อมเพื่อนร่วมสมัครทั้งหมด 6-8 ท่าน
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม มีกรรมการสองคน หน้าตาใจดี

กรรมการจักให้ท่านแต่ละกลุ่มหาเหตุผลมาสนับสนุนหัวข้อที่ท่านได้รับ
มันคล้ายๆการโต้วาที แต่ไม่ได้โต้กันจริงๆ
กึ่งๆให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดและออกมาแสดงความเห็น

สิ่งที่ควรทำคือ ช่วยกันคิด ช่วยกันออกความเห็นและรับฟังเพื่อนๆในกลุ่ม
จากนั้นกรรมการจะให้ท่านแต่ละคนลุกขึ้นมานำเสนอเหตุผลที่ช่วยกันคิด

ถ้ามีสามคนก็ควรคิดไว้สามเหตุผล พูดกันคนละเหตุ
ตอนบจ.มีสามคน คิดได้สอง เวลาหมดพอดี
งานก็เลยเข้าอิชั้นเพราะต้องคิดและแถเอาเอง


5. สัมภาษณ์เดี่ยว

เมื่อท่านทำกรุ๊ปดิสคัชชั่นเสร็จและผ่านเข้ามารอบนี้
ท่านจะได้พบกับกรรมการอีก2ท่าน

กรรมการจะถามโน่นถามนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับตัวท่าน
มักจะถามจากเรซูเม่ หรือใบสมัครที่ท่านได้ส่งไป

เช่น
- เรียนอะไรมา
- ทำอะไรอยู่ เป็นยังไงบ้าง
- ทำไมถึงอยากเป็นแอร์ (อันนี้ถามชัวร์ ทุกที่แหละ)
- แล้วทำไมต้องเฉพาะเจาะจงเป็นที่นี่
(ควรหาข้อมูลบริษัทไปบ้าง ไม่ใช่บอกว่าก็เห็นที่นี่เปิดอยู่เลยมาลอง)
- ที่บ้านทำอะไร
- จะทำไหวเหรอ งานหนักนะ

เทคนิคคือทำตัวสบายๆ เป็นกันเอง แต่อย่ามากไป
ตอบคำถามให้ดูจริงใจ และ มีไหวพริบ

บางคนเจอคำถามเกี่ยวกับตัวงาน แต่บจ.ไม่เจอเลยไม่รู้ว่าเขาถามอะไร
แต่จากที่เคยเก็บข้อมูลมา ก็น่าจะพวก
- ถ้าผู้โดยสารมีปัญหา... จะช่วยแก้ยังไง
- ถ้ามีเหตุ...เกิดขึ้น เราจะทำยังไง
อะไรทำนองนี้


6. ลองชุด

ด่านสุดท้าย ท่านจักได้รับเชิญให้ไปลองชุด ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงแบบละเอียดอีกที
โดยท่านจะพบราวที่แขวนชุดยูนิฟอร์มไว้สี่ห้าชุด
(ซึ่งเล็กมากทุกชุด จนบจ.เข้าใจผิดว่าไซส์เดียวกัน
หยิบมาตัวนึง อุ้ย! เล็กจัง หยิบมาอีกตัว อุ้ย! นี่ก็เล็ก
จนต้องหันไปถามกรรมการว่า ขอโทษนะคะ นี่ไซส์เดียวกันหมดเหรอคะ
พร้อมได้คำตอบว่า ป่าวจ้ะ คนละไซส์.....!!!!!!!!! เห้ยยยย จะดีหราาาา
แต่กระนั้นก็ต้องจำใจ หยิบมาตัวนึง พร้อมเข้าห้องลอง กลั้นหายใจ แขม่วพุงสุดชีวิต แล้วรูดซิปปรึ๊ดดด
คือ ณ จุดนั้น ถ้าตับทะลุออกมาได้ ก็ทะลุออกมาแล้ว)

ลองเสร็จ กรรมการก็จะให้ท่านถกกระโปรงดูแผลเป็นตามขา และถกแขนเสื้อดูแผลเป็นตามแขน
นอกจากนี้ กรรมการก็จะดูสภาพหน้าท่าน โดยให้ท่านหันหน้าไปทางกระจกรับแสงธรรมชาติ
ถ้าโบ๊ะมาแน่น ปิดมาเนียนก็ผ่านฉลุย

จากนั้น ท่านจักถูกขอให้เดินให้ดู
ท่านก็จงผายไหล่ หน้าตรงนมตั้ง พร้อมเดินสวยๆ เยี่ยงอยู่บนเวทีนางสาวไทย พร้อมโปรยยิ้มเบาๆ


ทั้งหมดทั้งมวล เสร็จสิ้นภายในหนึ่งวัน และใช้ภาษาปะกิดทุกขั้นตอน
กระบวนการต่างๆ อาจจะต่างกันไปตามแต่ละสายการบินอย่างที่ว่าไป


สุดท้ายนี้
หวังว่าเอนทรี่นี้จะช่วยท่านได้ไม่มากก็น้อย

ขอให้โชคดีจงมีแด่่ท่านผู้กล้า(ล่าฝัน)ทุกท่าน

Comments

Popular Posts