เป็นแอร์สิงคโปร์ดีไหม? (4)



รอบนี้มีเฉลย ในหัวข้อชีวิตในสิงคโปร์ จะเป็นอย่างไร อยู่ยากไหม ปลอดภัยแค่ไหน ได้คำตอบแน่นอลลลล

คิดว่าหลายๆคนคงเคยไปเที่ยวพักผ่อนที่สิงคโปร์กันมาบ้าง ประเทศที่พื้นที่เล็กๆ (เล็กขนาดที่ถ้าขับรถตัดผ่านจากอีกฝากไปอีกฝากใช้เวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมง อันนี้เพื่อนคนสิงบอกมา เชื่อได้แค่ไหนไม่รู้ แต่เราเชื่อ เพราะเป็นคนหูเบา 55555+) แต่ถึงประเทศจะเล็กแต่เศรษฐกิจไม่เล็กนะจ้ะ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแถบนี้เลยก็ว่าได้ พี่ใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

พอเรื่องเล็กๆใหญ่ๆไว้ก่อน พิมพ์มากๆเดี๋ยวเลยเถิด


4. สิงคโปร์ แดนมหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (ชื่อคุ้นๆ เหมือนหนังสือเจเคโรวลิ่ง)


แบ่งหัวข้อตามนี้เลยละกันโนะ 

A. อากาศ และภูมิประเทศ

สิงคโปร์เป็นที่ราบตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเล ที่ลุ่มดินดอนและป่าชายเลน สภาพอากาศมีความร้อนชื้นเด่วๆๆ อันนี้มั่วววว :D

ภูมิประเทศเป็นไงไม่รู้ เปิดวิกิกันเอง ที่รู้ชัดคือมีสองหน้าแบบบ้านเรา หน้าฝนกะหน้าร้อน ไม่เคยเจอสิงคโปร์หนาวเลย จากความรู้สึกส่วนตัว สิงคโปร์มีความร้อนชื้นไม่ใช่ร้อนแดดแผดโลกันต์แบบที่ไทย

หน้าฝนก็ฝนตกหนัก แต่ไม่ค่อยมีน้ำท่วม สงสัยไหลลงทะเลหมด (รู้เลยนะคะว่าเด็กๆตกสปช) แต่แปลกอยู่อย่าง อยู่สิงคโปร์มาสองปีกว่า ไม่ยักกะเคยโดนยุงกัด แบบพยายามหา ยุงๆๆๆ อยู่ไหนจ๊ะ มากัดฉันที กัดสิๆ แต่มันไม่เจออ

เพื่อนบอกมันมี! แต่นี่ไม่เจอไง เลยลองสังเกตก็พบวาเหมือนเขาจะกำจัดยุงบ่อย แบบอยู่ดีๆจะมีพนักงานจากหน่วยงานสักอย่างแวะมาเคาะประตูบ้าน ถามๆเรื่องน้ำขัง โถส้วมไม่ได้ใช้กดทิ้งบ้างไหม มียุงมาสร้างครอบครัวป่าว แนะนำวิธีกำจัดจุดเสี่ยงก่อให้เกิดยุง ละวันดีคืนดีก็มาฉีดยาไล่ยุง ฟุ้งไปทั้งตึก



B. ค่าครองชีพ

ถามว่าแพงไหม ก็ตอบเลยว่าแพง อย่างข้าวราคาถูกๆตามฟู๊ดคอร์ทย่านชุมชน ก็อยู่ที่ประมาณ 4 เหรียญ (100 บาท) น้ำเปล่าขวดตามเซเว่นก็ประมาณ 1 เหรียญ (กินโค้กเถอะ ถูกกว่า)

นอกนั้น ค่าแท็กซี่ที่เหล่าสาวแอร์ต้องนั่งกันประจำ ขาดไม่ได้ เหมือนขาข้างที่สาม ก็เริ่มมิเตอร์ที่เกือบ 100 บาทสำหรับรถแท็กซี่ทั่วไป ถ้าวันไหนแลนด์แล้วงัวเงียก้าวผิดขึ้นแท็กซี่ไฮคลาส จำพวกแท็กซี่เบนซ์ แท็กซี่ลอนดอน ก็จ่ายเพิ่มไปอีกสวยๆ สัก 150 บาทสำหรับค่าหย่อนตูด

เพื่อนคนสิงคโปร์เคยมาเที่ยวที่ไทย นั่งรถติดอยู่ในแทกซี่แถวเอเชียทีคนานเกือบชั่วโมง ค่าแท็กซี่ไม่ถึง 150 บาท เพื่อนตกใจค่ะ หวาล้าวววว! ไอค้านนบีลีฟ แบงคอกแท็กซี่โซชีพพพพ (ดวกกกกก)

แต่ถึงกระนั้น รายได้ประเทศเขาก็มากกว่าเราหลายเท่า ดังนั้นค่าครองชีพก็ปรับไปตามความเหมาะสม

อยากประหยัดก็นั่งรถเมล์ รถไฟฟ้าค่ะ ถูกกว่าแท็กซี่เยอะ

ต้องขออวยหน่อยว่าระบบขนส่งที่สิงคโปร์ดีงามรามเกียรติ์มาก คือมีบัตรเดียว ตึ๊ดได้ทั้งรถเมล์รถไฟฟ้าหรือแม้กระทั่งแท็กซี่ ไม่เหมือนบ้านเรา พกแม่งทั้งบัตรบีทีเอส บัตรใต้ดิน ไหนจะต้องเผื่อเหรียญขึ้นรถเมล์ จ่ายแบงค์ใหญ่โดนกระเป๋าด่าแบบแทบไม่ได้ผุดได้เกิด!

บัตรเดินทางของสิงคโปร์เรียกว่า ez link
C. ความปลอดภัย

ปลอดภัยแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าปลอดภัยกว่าประเทศแม่เราแน่ๆ ถถถถถถถถ (อะ! ล้อเล้งงงง ไม่งอนนะประเทศทัยยยย)

แต่ปลอดภัยจริง ไม่ติงนัง ลืมของตามที่สาธารณะไม่ค่อยหาย คล้ายๆญี่ปุ่น อาจจะเพราะด้วยกฎหมายประเทศเขาแรง และนิสัยคนสิงคโปร์ไม่ค่อยออกนอกกฎ อาชญากรรมประเทศนี้มีน้อยเมื่อเทียบกับไทย เพราะประชากรส่วนมากมีการศึกษาและงานทำที่ดี อาจจะมีบ้างบางแหล่งที่มีแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่เยอะ ก็ต้องระวังไป (ไม่มีที่ไหนปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนี้แม่บอกมา หลังจากเล่าให้ฟังว่าใส่ชุดนอนลงไปซื้อแมคมากินตอนตีสอง ย่ามใจแค่ไหน 5555+)

นักท่องเที่ยว หรือคือใครจะไปทำไรผิดระเบียบที่สิงคโปร์ก็เช็คด้วย กินหนมในรถไฟฟ้า ทิ้งขยะไม่เป็นที่ โดนปรับทีเป็นหมื่นนะจ๊ะ เอาตั๋วเครื่องบินไปขายมาจ่ายค่าปรับยังไม่พอ #ล้องงห้ายยย


D. ผู้คนและวัฒนธรรม

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนสามเชื้อชาติหลักๆ คือ จีน มาเลเซีย และ อินเดีย (จดค่ะจด! เผื่อกรรมการถาม)

ตามรถไฟฟ้าจะเห็นได้ชัดว่ามีความผสมผสานทั้งภาษาอังกฤษ จีน อินเดีย และมาเล เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องต่างชาติ ต่างภาษา เพราะประเทศเขาก็ยำรวมไปหมดทุกชาติอยู่แล้ววว 


ลำบากหน่อยตอนแรกๆก็เรื่องการสื่อสาร สำเนียงอังกฤษอันหลากหลายและการพูดที่ค่อนข้างเร็ว แรกๆไปก็นั่งเอ๋อในห้องเรียน เทรนเนอร์พูดเร็วและsinglishหนักมาก มองมาที่ตาดิฉันซิคะแล้วแล้วเทรนเนอร์ก็คงรู้ว่ากายหยาบมันลอยไปนอกจักรวาลอันไกลโพ้นแล้ว แต่ใช้เวลาปรับตัวสักพัก เดี๋ยวมาเองงง ปร๋อเลยจ้า อาลามา วายไหลแด๊ดดด? ฟาสเตอร์แค๊น?

*Singlish คือคำเรียกภาษาอังกฤษสไตล์คนสิงคโปร์ คือจะมีกลิ่นอายความเป็นจีนติดมากับสำนวนการพูด เป็นอังกฤษที่ฟังรู้เรื่อง แต่บางคำบางสำนวนก็จะ เอ๊ะ พวกเจ้าของภาษาเขาไม่ใช้กันหนิ เช่น แคนออร์นอท? (can or not? ได้หรือไม่ได้), ออลเรดี้เม้? (already meh? ทำไปแล้วไม่ใช่เรอะ?) จริงๆก็คล้ายๆเวลาคนไทยพูดอังกฤษแบบ แต้งกิ้วนะ สลีปวิทมีฟรีเบรคฟาสนะ

จากที่ทำการสำรวจ พบว่าสาวๆที่นี่มักหุ่นดี หุ่นดีในที่นี่คือผอม และแต่งตัวค่อนข้างเปิดเผยกัน คือขาสั้นก็สั้นมาก เสื้อกล้ามก็สามารถใส่เดินห้างกันได้แบบไม่สะดุดใจ คือถ้าไม่อยู่ในย่านออร์ชารต์แหล่งชอปปิ้ง คนก็ไม่ค่อยแต่งตัวกัน หรือแม้กระทั่งแหล่งชอปปิ้งก็ยังแต่งไม่หนักเท่าบ้านเรา 

พูดถึงเรื่องคน อาจจะต้องปรับตัวนิดนึง เพราะคนที่นี่ค่อนข้างทำอะไรเร็วและต้องการความมีประสิทธิภาพ ประเทศเล็ก ทรัพยากรน้อยเนอะ คนบางครั้งเลยอาจจะดูเห็นแก่ตัวและขี้คอมเพลนไปหน่อย แต่ก็อย่าเอามาใส่ใจ ใช้ชีวิตของเราให้ดีก็พอ (นางงามมะ? ความจริงกูด่ากลับในใจ 555555)



E. อาหารการกิน
ไอติมกะทิดีงามที่ไทยเอ็กเพรส
อาหารการกินที่ประเทศแห่งนี้มีหลากหลาย ทั้งอาหารจีน อินเดีย มาเล อาหารไทยก็หาง่ายเพราะเป็นที่นิยมแต่อาจจะราคาสูงกว่านิดหน่อย ตามฟู๊ดคอร์ทก็จะมีพวกอาหารทั่วไปเหมือนบ้านเราเลย ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก ข้าวแกงตักๆแต่เป็นแบบจีนหน่อย ผัดผักไรงี้ อาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น เกาหลีก็หาไม่ยาก 

โกลเด้นมาย (Golden Mile Complex) ย่านโปรดของคนไทย มีพวกซุปเปอร์ขายของไทย ร้านอาหารไทย ไปไม่มีอดตาย อาหารไทยโดยคนไทยเพื่อคนไทย อยากได้รสชาติที่คุ้นเคย ตามหาความเผ็ดแบบแสบตูด มาเลยที่นี่ แสบยันวันพรุ่ง

อีกย่านที่ดังคือ เกลัง มีที่พักราคาถูก แต่เป็นถิ่นไม่ค่อยดีนัก คือแถบนี้จะเป็นกึ่งย่านโคมแดงของสิงคโปร์ มีหญิงไทยไปทำงานจำนวนหนึ่ง มีร้านให้บริการต่างๆนานา 
อีกอย่างที่คิดถึง คือลูกชิ้นชีสส้มที่ Old Change Ki ร้านขายของทอดเสียบไม้


F. สันทนาการ

อยู่สิงคโปร์เบื่อๆไม่รู้ทำไร ก็ไปช้อปปิ้งจ้ะ แถวOrchard Roadเป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้านานาชนิด มีตั้งแต่ห้างหรูญี่ปุ่น takashiyama ไปยันห้างสไตล์มาบุญครองอย่าง lucky plaza มีร้อยใช้ห้าร้อย รูดบัตรติดหนี้กันไป

ถ้าใครชอบเดินแบบเอ้าดอร์ เสื้อผ้าราคาสบายกระเป๋าหน่อยก็ไปแถว Bugis อารมณ์แพลทตินั่มแต่ไม่หลากหลายเท่าและราคาแพงกว่าหน่อย

ใครชอบดูหนังก็ราคาไม่แพง หาที่ดูง่ายตามห้างทั่วไป ตั๋วธรรมดาก็ประมาณ 10-15 เหรียญนะถ้าจำไม่ผิด



ส่วนพวกสายธรรมนำชีวิตแบบเรา (สาธุบุญจ้ะ) มีวัดไทยอยู่หลายที่ตามแหล่งชุมชน ที่ไปบ่อยสุดก็วัดปาเลไลย์แถว Bedok Walk เพราะอยู่ใกล้บ้านสุด วันหยุดก็ชวนเพื่อนสาวไปทำบุญ วัดไทยคนจะไม่ค่อยเยอะ พระประจำวัดเป็นพระไทย พูดคุยได้สบายใจนัก ส่วนอีกที่ที่ชอบไปพอๆกันก็คือศาลเจ้าแม่กวนอิมที่หลังบูกิส แต่ที่นี่คนเยอะตลอดดด มีทั้งเจ้าถิ่นและนักท่องเที่ยว

สายปาร์ตี้อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ถ้าไปดื่มชิวๆน่าจะแถว Clark Quay ส่วนถ้าจะไปเหวี่ยงต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเอง แต่ที่ได้ยินชื่อก็พวกร้าน zouk, butter factory



รอบหน้าจะมากับหัวข้อสุดท้าย (ละมั้ง) กับชีวิตการทำงานในฐานะเอสคิวเกิร์ล งานหนักไหม เพื่อนร่วมงานเป็นไง สังคมการทำงานโอเคไหม เด๋วมาเล่าข่าาา


บายยยย


Comments

Popular Posts